top of page
  • รูปภาพนักเขียนGLOME PET

เปิดร้านตัดขนสุนัขต้องเตรียมอะไรบ้าง?

อัปเดตเมื่อ 31 ม.ค. 2564

“Love me Love my dog” เป็นสำนวนของภาษาอังกฤษที่สื่อถึง "ถ้าคุณรักฉัน ก็จงรักหมาของฉันด้วย" ความสัมพันธ์ระหว่างคนรักสุนัขกับสุนัขตัวโปรดของเขา จึงไม่แปลกใจที่ผู้เป็นเจ้าของสุนัขจะดูแลเอาใจใส่สุนัขตัวโปรดในเรื่องอาหารการกิน การฝึกสอนนิสัย สุขภาพและการป้องกัน รวมไปถึงการอาบนํ้าและการเสริมสวยสุนัข ธุรกิจร้านเสริมสวยสุนัขจึงเกิดขึ้นจากความรัก ความเอาใจใส่ ตราบใดที่คนยังรักสุนัข ธุรกิจเสริมสวยสุนัขจะยังคงมีอนาคตที่สดใสต่อไป




1. ศักยภาพของผู้ประกอบการ

ผู้ประกอบการที่อยากเปิดธุรกิจเสริมสวยสุนัข แค่ใจรักยังไม่พอ ยังต้องมีคุณสมบัติสำคัญดังต่อไปนี้

• มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสุนัข เช่น สายพันธ์ รูปทรงสุนัข สภาพเส้นขน นิสัยและความดุร้าย สภาพอากาศที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยง

• มีความรู้เรื่องเครื่องมือ อุปกรณ์ ที่ใช้ตัดแต่งขนสุนัขให้เหมาะสมกับสุนัขแต่ละพันธุ์

• เป็นคนรักสุนัข และ รักการให้บริการ

• ผ่านการอบรมหลักสูตรเรียนตัดขนสุนัข และเมื่อเรียนจบหลักสูตรแล้ว ผู้ที่จะดํำเนินธุรกิจควรมีการฝึกฝนความรู้จริง เช่น สมัครเป็นช่างตัดขนสุนัขเพื่อเก็บประสารณ์ที่อื่นก่อนระยะหนึ่ง


2. การติดต่อกับหน่วยงานราชการ

การดำเนินการธุรกิจเสริมสวยสุนัขจะเกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการต่างๆ ดังนี้

• กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อจดทะเบียนพาณิชย์จัดตั้งธุรกิจโดยทั่วไป ธุรกิจด้านบริการอย่างเดียวจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์เว้นแต่มีการขายสินค้าอื่นด้วย ผู้ประกอบการก็ต้องขอจดทะเบียนพาณิชย์ ผู้สนใจสามารถ

  • ดูรายละเอียดการจัดตั้งและการขออนุญาตได้ที่ www.ismed.or.th หรือที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.thairegistration.com กรมสรรพากร เพื่อดํ าเนินการทางด้านภาษี http://www.rd.go.th

3. การทำโปรโมชั่น และการวิเคราะห์ตลาด

  • 3.1 ภาพรวมการตลาด ในเมืองไทยการเลี้ยงสุนัขได้เปิดกว้างสํำหรับทุกชนชั้น ตั้งแต่ผู้ที่มีรายได้ตํ่า ไปจนถึงขั้นเศรษฐีถึงแม้วัตถุประสงค์ของการเลี้ยงจะแตกต่างกันออกไปบ้างก็ตาม ดังนั้น สถานเสริมสวยสุนัขจึงยังเป็นที่ต้องการของผู้เลี้ยงสุนัขทั้งรายได้น้อยและรายได้สูง และคาดว่าความต้องการใช้บริการจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตลาดของธุรกิจเสริมสวยสุนัขจึงยังไปได้ดี ตราบใดที่เจ้าของธุรกิจมีฝีมือดีและรู้จักพัฒนาเทคนิคใหม่ๆให้ดียิ่งขึ้น

  • 3.2 กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ลูกค้าของร้านเสริมสวยสุนัข คือ กลุ่มคนทั่วไปที่เลี้ยงสุนัขไว้เป็นเพื่อน หรือเลี้ยงไว้เพื่อประกวดเป็นคนที่รักและดูแลเอาใจใส่สุนัขเป็นอย่างดี

  • 3.3 ธุรกิจหลัก/เสริม - ธุรกิจหลัก คือ การบริการอาบนํ้ า ตัดแต่งขนสุนัข นอกจากธุรกิจหลักที่เป็นไปตามปกติแล้ว รายได้เสริมหรือธุรกิจเสริมยังมาจากการขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุนัข เช่น ผลิตภัณฑ์ทํ าความสะอาด และสินค้าเกี่ยวกับการเสริมสวยให้สุนัข ทั้งแชมพู นํ้ามันชโลมให้ขนเงางาม น้ำยากําจัดเห็บ หมัด เสื้อสํำหรับสุนัข สายจูงสุนัข ขนมและของเล่นต่างๆ เช่น กระดูกปลอม ลูกบอล ฯลฯ สินค้า เหล่านี้ทําให้สีสันของร้านสะดุดตามากขึ้น ที่สํ าคัญผู้ประกอบการต้องมีความรู้เรื่องสินค้าที่ขายด้วย - ขายอาหารสุนัข - Spa นวดตัวสุนัข


3.4. การเพิ่มมูลค่าให้กับงานบริการ

ผู้ประกอบการอาจเพิ่มมูลค่าให้กับงานริการ ด้วยวิธีการดังนี้

  • บริการรับส่งสุนัขถึงบ้าน เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มยอดการใช้บริการและเพิ่มรายได้

  • เก็บประวัติลูกค้าและสุนัขที่มาใช้บริการ เพื่อใช้บริหารการให้บริการลูกค้า เช่น ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ หรือโปรโมชั่น โทรศัพท์เตือนลูกค้าเมื่อถึงเวลาตัดขนสุนัข ฯลฯ



รูปแบบการให้บริการ

การให้บริการเสริมสวยสุนัขมีหลายรายการ เช่น อาบนํ้ า ตัดแต่งขน นวดตัว Treatment Hot Oil ตัดเล็บ แคะหู กํ าจัดเห็บ-หมัด แต่ละร้านอาจจะจัดรูปแบบการให้บริการแตกต่างกัน เช่น

  • อาบน้ำ + ตัดแต่งขน + ตัดเล็บ + แคะหู

  • อาบน้ำ + ตัดเล็บ + แคะหู

  • ตัดแต่งขน + ตัดเล็บ + แคะหู

  • กำจัดเห็บ – หมัด

  • Hair Treatment

  • Hot Oil

การกําหนดราคาค่าบริการ

กรณีเป็นสุนัขที่ไม่มีปัญหาสุขภาพหรือปัญหาสภาพขนเป็นสังคะตังการกําหนดราคาบริการเสริมสวยสุนัขขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ผู้ประกอบการอาจจะใช้เกณฑ์ต่างกัน เช่น

  • ขนาดและนํ้ าหนักของสุนัข

  • ฝีมือของช่าง

  • ต้นทุนของอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์เสริมสวยที่ใช้

  • ถ้าเป็นสุนัขที่มีปัญหาสุขภาพและปัญหาสภาพขน

  • ราคาบริการจะเพิ่มขึ้น ราคาไม่มีอัตราที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของงาน


สำหรับผู้ที่สนใจเรียนตัดขนสุนัข สามารถสอบถามรายละเอียด หรือ สมัครเรียนกับ โรงเรียนสอนตัดขนสุนัข โกลมี่ เพ็ท ได้ที่นี่ "ดูรายละเอียดคอร์สเรียนตัดขนสุนัข"
ดู 5,633 ครั้ง
bottom of page